
‘เน็ตฟลิกซ์ (Netflix)’ บริการสตรีมมิงวิดีโอออนดีมานด์ยอดนิยมที่ให้บริการในกว่า 190 ประเทศทั่วโลก ปัจจุบันพวกเขามีรายรับมากกว่า 2.79 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 94,000 ล้านบาท จากยอดผู้ใช้บริการมากกว่า 104 ล้านคน
จุดเริ่มต้นของเน็ตฟลิกซ์เกิดขึ้นในปี 1997 หรือเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว โดย รีด แฮสติงส์ และมาร์ค แรนดอล์ฟ (Marc Randolph) โดยเริ่มจากทำธุรกิจจากบริการเช่าวิดีโอทางออนไลน์ แฮสติงส์เคยถูกปรับเงินเป็นจำนวน 40 เหรียญสหรัฐ ข้อหายืมวิดีโอเรื่อง Apollo 13 จากร้านบล็อกบัสเตอร์ (Blockbuster) แล้วคืนช้ากว่ากำหนด เค้าเลยได้ไอเดียว่าบริการของเค้านั้น เปิดให้ลูกค้าสามารถเช่าดีวีดีในราคาแค่ 7.99 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 260 บาท โดยไม่จำกัดจำนวนหนังที่ยืม ไม่กำหนดเวลาคืน และไม่จำกัดจำนวนครั้ง
หนังเรื่องไหนล่ะที่แฮสติงส์จะต้องลงทุนซื้อมาเก็บไว้ให้เช่า ?
แฮสติงส์สังเกตุจากการที่ผู้บริโภคดาวน์โหลดหนังบน BitTorrent หรือช่องทางเถื่อนอื่นๆ ว่าหนังเรื่องไหนเป็นที่นิยม จึงซื้อมาเก็บไว้
ในยุคดิจิทัล ธุรกิจที่อยู่มานานๆและไม่ปรับตัว ค่อยๆ หายกันไป สมัยก่อนเราเดินเข้าร้านเช่าวิดีโอ เช่าหนังสือเป็นว่าเล่น แต่ในตอนนี้จะหาร้านเช่าวิดีโอหรือร้านเช่าหนังสือนั้นยากเหลือเกิน เพราะคนส่วนใหญ่หันไปเสพคอนเทนต์ในมือถือกันหมดแล้ว
ความนิยมในแผ่นดีวีดีจึงเริ่มถดถอยและล้าหลังลง Netflix ตัดสินใจมุ่งหน้าสู่ตลาดสตรีมมิงวิดีโอออนดีมานด์ อย่างเต็มรูปแบบในปี 2007 และ จับมือกับค่ายผู้พัฒนาฮาร์ดแวร์เจ้าต่างๆ เพื่อขยับขยายช่องทางเจาะตลาดผู้บริโภคทั่วโลก และในปี 2010 เริ่มขยับขยายช่องทางการรับชมครั้งใหญ่ด้วยการบุกตลาดสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ตในกลุ่ม Apple เช่น iPhone iPad และ iPod Touch
และกลยุทธ์ที่เพิ่มความเหนือชั้นที่สุดคือสร้างคอนเทนต์เป็นของตัวเอง อย่างซีรีส์การเมือง House of Cards ผลงานการโปรดิวซ์ของเดวิด ฟินเชอร์ (David Fincher) ผู้กำกับชื่อดัง และมีซีรีส์ชื่อดังอีกมากมาย เช่น House of Cards, Stranger Things, Black Mirror, 13 Reasons Why หรือภาพยนตร์ Okja ที่ใครที่อยากดูต้องสมัครสมาชิกกับ Netflix เท่านั้น
House of Cards Season 5 Official Trailer
Inspired By : The Standard