
Facebook แพลตฟอร์ม Social ที่มีผู้ใช้กว่า 2,000 ล้านUser จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องกำหนดนโยบายต่างๆ เพื่อจำกัดให้ผู้ใช้งานอยู่ในกรอบ โดยยึกหลัก 3 ข้อ
ความปลอดภัย – เพื่อให้ผู้ใช้รู้สึกอิสระและปลอดภัยในพื้นที่ของตนเอง
การแสดงความเห็น – แสดงความเห็นได้อย่างอิสระเท่าที่เป็นไปได้
ความเป็นมาตรฐานเดียวกัน – ใช้แพลตฟอร์มได้อย่างเท่าเทียมกันทั่วทุกมุมโลก
ซึ่งกรอบดังกล่าว จะมีการตรวจสอบเนื้อหาบน Facebook ในทุกๆ วัน ทั้งรูปภาพ วีดีโอ ข้อความต่างๆ ทำหน้าที่โดยพนักงานกว่าหมื่นคนจากทั่วทุกมุมโลก คอยเฝ้าตรวจสอบตลอด 24 ชม. และระบบ AI หรือ Artificial Intelligence ที่ Facebook ลงทุนเพื่อตรวจจับเนื้อหาที่ฝ่าฝืนกฏโดยเฉพาะ แล้วนำออกจากแพลตฟอร์มทันที
เนื้อหา 6 ประเภทที่มักถูก Facebook ลบ!
เนื้อหาโป๊เปลือยและกิจกรรมทางเพศ (Nudity & Sexual Activity)
เนื้อหาความรุนแรง (Content Violence)
โฆษณาชวนเชื่อของผู้ก่อการร้าย (Terrorist Propaganda)
เนื้อหาที่ใช้วาจาสร้างความเกลียดชัง (Hate Speech)
บัญชีผู้ใช้ปลอม (Fake Account)
สแปม (Spam)
*นอกจากเนื้อหา 6 ประเภทที่กล่าวมานี้แล้ว Facebook ยังมุ่งเน้นเพิ่มมาตรการความปลอดภัยแก่ผู้ใช้งาน 13 – 18 ปี โดยเฉพาะ!

อีกโปรแกรมของ Facebook ที่กำลังถูกจับตามองมากขึ้นคือ Live Video กรณีนี้ยกตัวอย่างเช่น Live ฆ่าตัวตาย โดยทางทีมงานมีนโยบายความปลอดภัยในการใช้ Live ซึ่งหากพบมีความสุ่มเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย จะไม่นำ เนื้อหา Video Live นั้นออกทันที เพื่อจะได้เห็นความเคลื่อนไหวและเข้าช่วยเหลือได้ทัน หรือส่งข้อความแจ้งเตือนต่างๆ ให้เค้ารู้สึกว่ายังมีคนห่วงใย หรือกรณีที่อันตรายจริงๆ จะมีทีมงานพิเศษติดต่อกับเจ้าหน้าที่ๆ ทาง Facebook เป็นพาร์ทเนอร์กันเพื่อเข้าช่วยเหลือ *หลังจากคลี่คลายแล้ว จะนำวีดีโอนั้นออกจากแฟลตฟอร์มทันที
เหรียญย่อมมี 2 ด้านเสมอ Social Media ก็เช่นกัน ข้อดีคือเชื่อมทั้งโลกเข้าไว้ด้วยกัน เป็นช่องทางสร้างรายได้ รับรู้ข่าวสารต่างๆ ในขณะที่อีกมุม ก็มีผู้นำไปใช้ในทางที่ผิด ดังนั้น ตั้งสติทุกครั้งยามล็อคอิน และใช้สื่อ Social Media เหล่านี้เพื่อแบ่งปันเรื่องราวดีๆ อย่างสร้างสรรค์
#การตลาด #facebook #socialmedia #content #censors #แบน #ถกแบน #ถกลบ #คอนเทนต #เนอหาโดนลบ #Live #LiveFacebook #LiveVideo #socialinfluencer #media