top of page

Plant-Based Diet ดีต่อใจและสุขภาพ


Plant-based diet คือ การรับประทานพืชในรูปแบบใกล้เคียงกับธรรมชาติ การกินผักผลไม้จำพวกธัญพืช ถั่วฝัก ถั่วเปลือกแข็ง ลดหรือหลีกเลี่ยงการกินเนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ และอาหารแปรรูปต่าง ๆ วิถีการกินแบบ plant-based อาจมีหรือไม่มีเนื้อสัตว์ก็ได้ แต่ถ้ามีก็เป็นสัดส่วนน้อยมากเมื่อเทียบกับผัก อันนี้คือข้อต่างของ plant-base diet และมังสวิรัติ


กลุ่มอาหารที่เน้นกินมี 5 กลุ่มหลัก ได้แก่

กลุ่มที่ 1 คือ ธัญพืชไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ข้าวโพด หรือลูกเดือย

กลุ่มที่ 2 คือ ถั่วชนิดต่างๆ เช่น ถั่วเขียว ถั่วแดง อัลมอนด์ หรือพวกงา เมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน เป็นต้น

กลุ่มที่ 3 คือ ผลไม้ โดยอาจจะเน้นเป็นผลไม้ที่หาทานง่าย เช่น ผลไม้ตามฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นมะม่วง ฝรั่ง หรือกล้วย

กลุ่มที่ 4 คือ ผักทุกชนิด โดยเน้นเป็นผักใบเขียวเป็นหลัก

กลุ่มที่ 5 คือ พืชตระกูลหัว เช่น มันฝรั่ง มันเทศ หรือเผือก


Plant-based diet กินรักษ์โลก

การบริโภคเนื้อสัตว์น้อยลงถือเป็นการไม่สนับสนุนการทำปศุสัตว์ ซึ่งเป็นสาเหตุอันดับสองของก๊าซเรือนกระจก สาเหตุของโลกร้อนที่เราเผชิญอยู่ทุกวันนี้ (จากสถิติองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกพบว่า การทำปศุสัตว์เป็นแหล่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกอันดับ 2 รองจากภาคพลังงาน และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี)


การกินแบบ PLANT BASED DIET ตามหลักของ Dr.Colin Zhu

การกินแบบ PLANT BASED DIET ไม่เพียงช่วยป้องกัน...แต่ยังรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจ (CAD) ได้


การศึกษาของ Cleveland Clinic เป็นระยะเวลา 21 ปี นำโดย Dr. Caldwell Esselstyn Jr. พบว่า การกินอาหารเน้นพืชผักตามหลัก PLANT BASED DIET สามารถหยุดโรคหลอดเลือดหัวใจ (CAD) ได้ และเมื่อตรวจร่างกายก็พบว่าระดับคอเลสเตอรอลโดยรวมน้อยกว่า 150 mg/dL และปริมาณของ LCL หรือไขมันไม่ดีนั้นน้อยกว่า 80 mg/dL


การเลี่ยงอาหารจากเนื้อสัตว์ที่มีไขมันสูง โปรตีนสูง และปรุงด้วยกระบวนการทอดหรือย่าง ทำให้ลดโอกาสการเกิด AGEs

หรือสารที่สร้างความเสื่อมและความชราต่อร่างกายได้ Dr.Colin Zhu อธิบายว่า การกินแบบ PLANT BASED DIET ไม่เพียงอาศัยหลักการกินเนื้อสัตว์ให้น้อยที่สุด แต่ยังเน้นอาหาร less processed ซึ่ง สาร AGEs นั้น นับว่าเป็นสารพิษที่อันตรายต่อร่างกายอย่างมาก เพราะจะเข้าไปเร่งกระบวนการเสื่อมภายในร่างกาย ก่อให้เกิดโรคต้อกระจก ภาวะจอประสาทตาเสื่อม โรคอัลไซเมอร์ รวมทั้งยังสร้างความเสื่อมต่อกระดูก หัวใจ ไต และตับของเรา ทำให้อายุการใช้งานของอวัยวะต่าง ๆ ลดลง


การทานคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน...ป้องกันภาวะน้ำตาลในเลือดสูงแบบเฉียบพลันได้

ข้อดีของคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน คือ มีไฟเบอร์สูง ย่อยช้า ดูดซึมช้า ร่างกายจึงดึงไขมันหรือพลังงานที่สะสมอยู่เดิมมาใช้ก่อน และด้วยกระบวนการเปลี่ยนแป้งเป็นน้ำตาลที่ช้ากว่าคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว ทำให้ป้องกันโอกาสที่จะเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นแบบเฉียบพลันได้

ดู 184 ครั้ง
bottom of page