top of page

"Work from home" ดีจริงหรือ?


“Work from home” คือ การทำงานที่ไม่ต้องเดินทางไปยังสถานที่ทำงาน แต่ยังได้รับเงินเดือนเบี้ยเลี้ยงเหมือนกับการทำงานปกติ โดยใช้เทคโนโลยีโทรคมนาคมในการทำงาน อาทิ สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ หรือแท็บเล็ตที่ติดตั้ง Wi-Fi เพื่อทำงานจากบ้าน คอนโด Co Working Space หรือ ร้านกาแฟ

.

“Work from home” ดีจริงหรือไม่? Core & Peak จะมาไขข้อสงสัยวิธีการทำงานแบบนี้ให้คุณทราบกัน


ข้อดี “Work from home”

1. เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

จากงานศึกษาของนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดที่ตีพิมพ์ใน Harvard Business Review พบว่า พนักงานที่ทำงานที่บ้านทำงานได้สำเร็จมากกว่ากลุ่มที่ถูกบังคับใช้เข้าออฟฟิศ


งานศึกษาชิ้นนี้ สำรวจประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน Call Center ในบริษัท Ctrip เว็บไซต์สายท่องเที่ยวของจีน โดยแยกพนักงานออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ทำงานที่บ้านและกลุ่มที่ทำงานในออฟฟิศ ซึ่งพบว่า พนักงานที่ทำงานที่บ้านทำงานได้สำเร็จมากกว่าอีกกลุ่มถึง 13.5%


นอกจากนั้น งานศึกษาของ Gallup ก็พบว่า พนักงานที่ทำงานจากที่บ้าน 3 - 4 วันต่อสัปดาห์ รู้สึกมีส่วนร่วมกับงานที่ทำถึง 33% สูงกว่าพนักงานแบบเข้าออฟฟิศที่รู้สึกมีส่วนร่วมกับงานเพียง 15% เท่านั้น


2. ลดอัตราการลาออกของพนักงาน

จากการศึกษาบริษัท Ctrip พบว่า การทำงานจากที่บ้านทำให้พนักงานมีความพึงพอใจในงานที่สูงมาก (much higher job satisfaction) อัตราการลาออกจึงต่ำลง


นอกจากนี้ บริษัทที่เสนอให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน ยังมีโอกาสสูงที่จะได้คนรุ่นใหม่มาร่วมงานด้วย เพราะมีงานศึกษาที่พบว่า 40% ของพนักงานรุ่นใหม่ในสหรัฐอเมริกา ชอบการสื่อสารผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากกว่าเจอตัวเป็น ๆ หรือคุยผ่านทางโทรศัพท์


3. ลดต้นทุนบริษัท พนักงานมีความสุขมากขึ้น

งานศึกษาจากมหาวิทยาลัยซิดนีย์ พบว่า การทำงานจากที่บ้านทำให้พนักงานมีความสุขมากขึ้น และมีประสิทธิภาพสูงขึ้น งานวิจัยยังพบว่าการทำงานจากที่บ้านทำให้พนักงานมีสมาธิ ไม่มีสิ่งอื่นมารบกวนมากเท่ากับการเข้าออฟฟิศ


บริษัทก็ได้ลดต้นทุน เพราะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายกับการมีออฟฟิส นั่นก็เพราะพนักงานทำงานที่บ้าน และอุปกรณ์การทำงานพวกเขาซื้อด้วยเงินของตนเอง


4. พนักงานจะลาป่วยน้อยลง

หากพนักงานทำงานจากที่บ้าน จะลดความเครียดได้สูงมาก โดยเฉพาะความเครียดจากการเดินทาง หรือหากพนักงานเกิดป่วยก็สามารถทำงานจากที่บ้านได้ ไม่ต้องไปออฟฟิศเพื่อเพิ่มความเสี่ยงในการกระจายเชื้อให้กับเพื่อนร่วมงานในบริษัทเพราะฉะนั้น ลืมเรื่องวันลาป่วยของพนักงานไปได้เลย


ผลวิจัยจากสำนักวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา ระบุว่า การทำงานจากที่บ้านช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้จริง เพราะระดับมลพิษที่พนักงานได้รับ


5. ลดรายจ่าย (เงินเดือน) ให้กับบริษัท

จากการศึกษาของ American Economic Review พบว่า บริษัทในสหรัฐอเมริกาที่อนุญาตให้พนักงาน Work From Home จะหักรายได้จากพนักงานประมาณ 8% จากเงินเดือน นั่นหมายความว่า จะทำให้บริษัทมีกำไรเพิ่มมากขึ้นโดยที่ไม่ต้องเพิ่มผลิตผลของงานใด ๆ เลย


ยกตัวอย่าง บริษัทต้องแบกต้นทุนรายจ่ายเงินเดือนของพนักงานที่ 30% ส่วนกำไรสุทธิของบริษัทอยู่ที่ 3% แต่หากอนุญาตให้มีการทำงานจากที่บ้าน ทำให้ลดรายจ่ายเงินเดือนพนักงานลงได้อีก 8% สุดท้ายบริษัทจะมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 3% โดยที่ไม่ต้องทำอะไรเพิ่ม เพียงแค่อนุญาตให้พนักงาน Work From Home เท่านั้น


ข้อเสียของ “Work from home” ก็มีเหมือนกัน มาดูว่าอะไรบ้าง 1. เสียสมาธิง่าย บ้านบางหลัง หรือ สถานที่บางสถานที่ อาจไม่เอื้อต่อการทำงานเสมอไป อาจมีของเยอะ พื้นที่คับแคบ หรือมีสมาชิกในบ้านเยอะเกินไป ซึ่งอาจรบกวนการทำงานและทำลายสมาธิของเราได้

2. ไม่สะดวกเหมือนทำงานออฟฟิศ งานบางงานอาจไม่เหมาะที่จะทำที่บ้าน เพราะมีเอกสารและข้อมูลมากมาย หรืออาจต้องประสานงานกับเพื่อนร่วมงานหลายฝ่าย อีกทั้งอินเทอร์เน็ตที่บ้านอาจไม่เอื้อต่อการทำงานด้วย 3. ปัญหาด้านสุขภาพ ร่างกายขยับและใช้พลังงานน้อยลง แต่กินเท่าเดิมหรือเผลอ ๆ มากกว่าเดิมด้วยซ้ำ ทำให้ร่างกายอ่อนแอ เหนื่อยง่าย และอาจอ้สนลงพุงได้ด้วย เพราะอยู่กับสภาพแวดล้อมเดิม ๆ ไม่พบเจอผู้คน ซึ่งอาจส่งผลให้เสียสุขภาพจิตได้อีกด้วย 4. ค่าใช้จ่ายสูง แม้จะตัดภาระค่าเดินทางออกไป แต่จะเสียค่าไฟเพิ่มมากขึ้น เพราะต้องใช้ไฟฟ้าทำงานกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือเปิดแอร์นาน ๆ เพื่อบรรเทาความร้อน ไหนจะสั่งอาหารมากินอีก เรียกได้ว่าเสียค่าใช้จ่ายมากกว่าไปทำงานที่ออฟฟิศซะอีก 5. ความอิสระทำให้งานล่ม! หัวใจหลักสำคัญของการทำงานที่บ้านคือ การควบคุมตนเอง มีการวางแผนและมีการจัดการที่ชัดเจน ที่สำคัญ ควรแยกเวลาทำงานกับเวลาส่วนตัวออกจากกันให้ได้



เหรียญย่อมมี 2 ด้าน การทำงานแบบ “Work from home” ก็เช่นเดียวกัน แต่ถ้าเราทำความเข้าใจกับลักษณะการทำงานแบบนี้อย่างถูกต้อง มีการวางแผนและการปฏิบัติตัวที่ดี เพียงเท่านี้การทำงานแบบ “Work from home” ก็จะเวิร์คแน่นอน







ดู 222 ครั้ง
bottom of page